ภาษาที่ใช้เขียนโค้ด

BLOG

อัพเดตเทรนด์ ภาษาเขียนโค้ด ที่กำลังได้รับความนิยม 2020

อัพเดตเทรนด์ ภาษาเขียนโค้ด ที่กำลังได้รับความนิยม 2020

ภาษาของโค้ด เปรียบเสมือนภาษาพูดของคนเรา เพียงแต่ว่าคนละวิธีการสื่อสาร จากการคุยกับคน เปลี่ยนเป็นคุยกับคอมพิวเตอร์แทน เมื่อคนเราเรียนรู้ภาษาได้หลากหลายกว่าก็มีโอกาสได้ท่องโลกไปได้กว้างกว่า เช่น การทำงานต่างประเทศ ภาษาคอมพิวเตอร์ก็เหมือนกัน เมื่อโปรแกรมเมอร์เรียนรู้ได้หลายภาษา ก็มีโอกาสที่จะเขียนโค้ดแล้วทำให้ประสิทธิภาพของการอ่านโค้ดบนคอมพิวเตอร์ ทำงานได้มีความรวดเร็วประมวลผลที่เร็วกว่า เพราะภาษายิ่งใกล้เคียงกับ แมชชีนของคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์ยิ่งประมวลผลเร็วเท่านั้น ปัจจุบันภาษาที่ใช้เขียนโปรแกรมต่างๆ ก็มีการพัฒนามาอยู่เรื่อยๆ และเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมาก ที่เหล่าโปรแกรมเมอร์จะต้องเรียนรู้เอาไว้ เนื่องจากตลาดเทคโนโลยีดิจิตอลที่ยังคงมีความต้องการเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ จากนี้ไปถึงอนาคต โปรแกรมเมอร์จึงต้องอัพเดตสกิลการเขียนโปรแกรมให้มีศักยภาพและตามทันเทรนด์อยู่เสมอ

10 ภาษา ที่กำลังเป็นที่ต้องการของตลาด และได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในปี 2020

1. JAVA

นับว่าเป็นภาษาเบสิคของคนที่อยากเขียนโปรแกรม เป็นภาษาที่เหล่าโปรแกรมเมอร์ต้องรู้จักและมีพื้นฐานมาก่อนเลย คือ Java และภาษา C ซึ่งนิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย ซึ่ง Java สามารถสร้าง Programmer , Application ประยุกต์ใช้ได้หลากหลายรูปแบบ แต่ค่อนข้างเป็นภาษาที่ไปทางเทคนิคเพราะ Java เป็นภาษาโปรแกรมเชิงวัตถุ หรือ ( OOP : Object-Oriented Programming) เหมาะสำหรับการพัฒนาระบบที่มีความซับซ้อนแต่สามารถใช้เขียนโปรแกรมได้ครอบคลุมทุกระบบปฎิบัติการในตอนนี้ได้ อย่าง IOS , Mac , Android , Windows และ Linux

2. Phthon

เป็นภาษาที่อ่านง่ายและคล้ายคลึงกับภาษาของมนุษย์มากที่สุดแล้วในหมู่ภาษาที่ใช้เขียนโปรแกรม ซึ่ง Phthon จะแปลงชุดดคำสั่งแบบ Interpreter คือแปลชุดคำสั่งทีละบรรทัด เพื่อป้อนข้อมูลให้คอมพิวเตอร์ประมวลผลได้ตามต้องการ และสามารถนำไปเขียนหรือพัฒนาโปรแกรมได้อย่างหลากหลายประเภท จึงทำให้ภาษา Phthon ได้รับการยอมรับและนิยมนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายในองค์กรระดับโลก เช่น Google , Instragram , Youtube ,Dropbox และ Nasa

3. SQL

ภาษาพื้นฐานที่ใช้เขียนเพื่อจัดการฐานข้อมูลโดยเฉพาะ เป็นระบบแบบเปิด (Open System ) ซึ่งสามารถใช้คำสั่ง Sql กับฐานข้อมูลชนิดใดก็ได้ เพราะเป็นโปรแกรมที่มีโครงสร้างภาษาที่เข้าใจง่าย ไม่ว่าจะเป็นคำสั่งที่ใช้ในการเรียกใช้ เพิ่ม - ลบ และเปลี่ยนแปลงข้อมูล ป้องกันฐานข้อมูล สามารถทำงานที่ซับซ้อนได้ ซึ่งปัจจุบันมีระบบ ซอฟว์แวร์ DBMS ที่สนับสนุนคำสั่งของ Sql และนำมาเขียนร่วมกับโปรแกรมภาษาต่าง ๆ ได้

4. ภาษา C

ภาษาพื้นฐาน ภาษาแรกที่ตอนเป็นนักศึกษาในสาขาที่เกี่ยวกับการเขียนโปรแกรมจะต้องได้เรียนและเคยใช้มาก่อนในวิทยาลัย ซึ่งเป็นภาษาที่เรียนรู้ได้ง่าย เป็นพื้นฐานในการนำไปใช้เขียนโปรแกรมระดับสูงได้

5. ภาษา #C

เป็นภาษาแบบ multi-paradigm ที่มีโครงสร้างพื้นฐานในการเขียนโปรแกรมทั่วโลก พัฒนาโดย Microsoft ภายใต้ .NET Framework เป็นการพัฒนาออกมาให้เขียนโปแกรมง่ายและทันสมัยมากขึ้น เป็นภาษาที่ใช้งานในรูปแบบเกณฑ์ในหลักการของ Software Engineering การตรวจสอบข้อมูลที่เข้มงวด เช่น ระบบแอปพลิเคชั่นของธนาคาร เว็บไซต์โรงพยาบาล หรือระบบเอนเตอร์ไพรส์ใหญ่ๆ เป็นต้น

6. JavaScript

ภาษาที่ใช้สร้างเว็บเพจต่างๆ ควบคู่การทำ Scrip กับ Html ทำให้วัตุมีความเคลื่อนไหวได้ เป็นการเพิ่มลูกเล่นให้กับเว็บไซต์ ต่างๆ ได้มากมาย ตามความต้องการทำให้เว็บไซต์ดูมีความน่าสนใจและตอบสนองกับผู้ใช้งานได้มากขึ้น เช่น การคลิกเมาส์ที่วัตถุแล้วมีภาพเคลื่อนไหว หรือ scroll mouse บนหน้า Main page ปัจจุบันนิมใช้กันอย่างแพร่หลาย เนื่องจาก JavaScript สามารถใช้งานบนบราวน์เซอร์ได้เกือบทั้งหมด แต่ต้องคอยอัพเดตเวอร์ชั่นใหม่ๆ อยู่เสมอ

7. PHP

ภาษาสำหรับพัฒนาโปรแกรมบนเว็บไซต์ มีความยืดหยุ่นในการเขียนโปรแกรมได้หลากหลาย เป็นภาษาที่มีประสิทธิภาพการทำงานที่รวดเร็วและง่ายต่อการเรียนรู้ ซึ่งเป็นภาษาที่มีการพัฒนาและอัพเดตมาอย่างต่อเนื่อง สามารถทำงานบนระบบปฎิบัติการที่ต่างกันและทำงานบนเซิร์ฟเวอร์ได้หลายชนิด ด้วยระบบจัดการฐานข้อมูลที่สนับสนุนการทำงานของ PHP เช่น Oracle, MySQL, FilePro, Solid, FrontBase, mSQL และ MS SQL ใช้ร่วมกับ XML ได้เป็นอย่างดี

8. Go

ภาษารุ่นน้องที่ดันมีความ Poppula มากๆ และเป็นที่นิยม ในเว็บดังๆ อย่าง Amazon , Netflix ก็ต่างเลือกใช้ Golang ด้วยเพราะเป็นภาษาที่ Google ได้ผุดขึ้นมาให้เป็นทางออกของปัญหาเก่าๆ ที่หลายภาษานั้นเจอมา ทั้งการเสียเวลาในการ คอมไพรส์ นาน และการรองรับมัลติคัลเลอร์

ของภาษา C++ และ Phthon ด้วย Go ได้ใช้โครงสร้างไวยากรณ์ที่ไม่ซับซ้อนยุ่งยาก ทำให้การพัฒนาโปรแกรมนั้นมีความง่ายและรวดเร็วขึ้น พร้อมทั้ง library ที่ครบแบบจัดเต็ม แต่ใช้เวลาในการ build ที่สั้นมาก

9. Ruby

ภาษาที่เรียนรู้ได้ง่าย อ่านและทำความเข้าใจได้ไม่ยากมีความใกล้เคียงกับ ภาษา C และ PHP เพราะภาษาที่ใช้เขียนจะเป็นภาษาอังกฤษตรง ๆ ตัดส่วนที่ไม่จำเป็น จำแค่ส่วนที่ใช้และมองทุกอย่างเป็นรูปแบบของ Object มีความยืดหยุ่นสามารถเขียนได้หลากหลายรูปแบบ ทำงานได้ทุก Operation System ซึ่ง Ruby มีเครื่องมือหลากหลายเพื่อช่วยพัฒนาเว็บไซต์ให้ง่ายและรวดเร็วขึ้น เช่น Ruby On Rails จะมีโครงสร้างการจัดการแบบ Model View Controller สนับสนุนให้แอพลิเคชั่นพัฒนาด้วยโค้ดที่น้อยลงกว่าเฟรมเวิร์คอื่น และมี configuration น้อยที่สุด เพื่อความง่ายต่อการประยุกต์ใช้

10. Objective-C

ภาษาที่เป็น Super Set ของภาษา C ซึ่งสมารถใช้ตัวแปรที่อยู่กับภาษา C ดั่งเดิมได้ และมีความพิเศษตรงที่ถ้าหากต้องเขียน application บน iPhone นั้น ถ้าเขียนด้วยภาษา objective-c มันจะมี interface builder ที่ทำให้ผู้พัฒนาออกแบบ User Interface ได้อย่างง่ายดาย